การ ฝึกโยคะ เป็นวิธีที่ดีในการบริหารกล้ามเนื้อในร่างกาย โยคะช่วยให้คุณเพิ่มความยืดหยุ่น และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั่วไปของร่างกายและจิตใจ นี่คือบางประการที่การฝึกโยคะช่วยบริหารกล้ามเนื้อ การซื้อเสื่อโยคะ ควรเลือกเสื่อโยคะที่มีความยืดหยุ่นเเละสามารถช่วยให้เราผ่อนคลายในการบริหารฝึกเสื่อโยคะได้
ฝึกโยคะต้องทำอย่างไร
1. เพิ่มความยืดหยุ่น: โยคะช่วยทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้กลายเป็นยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปได้อย่างสม่ำเสมอและสะดวกสบาย.
2. เสริมกล้ามเนื้อร่างกาย: โยคะสามารถเป็นการฝึกที่ดีในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อในบางพื้นที่ของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อท้อง ขา และแขน.
3. พักผ่อนจิตใจและลดสตรีส: การฝึกโยคะมักจะรวมกับการหายใจลึก ทำให้ช่วยลดระดับสตรีสและสร้างสภาวะสงบใจ.
4. ปรับสมดุลกล้ามเนื้อ: โยคะช่วยให้คุณรู้สึกตัวและเสมอสมาตรในการใช้กล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกาย.
5. ลดอาการเจ็บปวด: การฝึกโยคะบ่งบอกว่ามีประโยชน์ต่อคนที่มีปัญหาเจ็บปวดเช่น ปวดหลัง หลังจากบาดเจ็บ หรือโรคเส้นใยนอกกระดูกสันหลัง.
การฝึกโยคะสามารถทำได้หลายแบบและระดับความยาก คุณสามารถเลือกแบบที่เหมาะกับระดับความเชี่ยวชาญและความพร้อมของคุณ. แต่ว่าควรพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญหรือครูโยคะก่อนที่จะเริ่มต้นเพื่อป้องกันการบาดเจ็บและให้คำแนะนำที่เหมาะสม.
วิธี ฝึกโยคะที่ถูกต้อง ต้องมีเสื่อโยคะประคองการออกกำลังกาย
การฝึกโยคะที่ถูกต้องควรปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานและให้ความสำคัญกับส่วนสำคัญต่อไปนี้:
1. การหายใจ (Pranayama): การควบคุมหายใจเป็นส่วนสำคัญของโยคะ ในการฝึกโยคะที่ถูกต้อง ควรเรียนรู้วิธีการหายใจที่ลึกและสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยให้ร่างกายและจิตใจสงบเสมอ.
2. การท่า (Asanas): การท่าโยคะช่วยให้ร่างกายยืดหยุ่น และเพิ่มความแข็งแรง การฝึกโยคะท่าต่าง ๆ ควรทำได้อย่างสะอาดและสบาย โดยไม่ให้รู้สึกถึงความเจ็บปวด.
3. การสตรีช (Concentration and Meditation): การฝึกโยคะไม่เพียงแค่เรื่องกายภาพ แต่ยังเกี่ยวข้องกับจิตใจและอารมณ์ การทำสตรีชและการปฏิบัติการสมาธิช่วยให้จิตใจเป็นสงบและมีสติ.
4. ความต่อเนื่อง (Consistency): เพื่อให้ได้ผลจริง ๆ ควรฝึกโยคะอย่างต่อเนื่อง โดยทำให้เป็นส่วนหนึ่งของวันหรือสัปดาห์ของคุณ.
5. การฝึกโยคะกับครูที่มีความรู้ หากเป็นเรื่องใหม่สำหรับคุณ ควรศึกษาจากครูโยคะที่มีความรู้และประสบการณ์ แต่ไม่ควรละเมิดคำแนะนำของพวกเขา.
6. การอัดรูปภาพในจิตใจ (Visualization): การมีภาพในจิตใจขณะทำโยคะช่วยให้การฝึกฝนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ.
7. การฟังร่างกาย (Body Awareness): ควรรับรู้ถึงสภาพร่างกายขณะฝึกโยคะ และไม่ควรบังคับร่างกายให้เกินไปทำให้เกิดความเจ็บปวด.
8. ความยืดหยุ่น (Flexibility): รักษาความยืดหยุ่นในการทำท่าโยคะ และไม่ควรทำให้เกิดการบาดเจ็บ.